รางวัลเจ้าฟ้ามหาจักรี
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่คุรุสภา ดร.กฤษณพงศ์ กีรติกร ประธานกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี แถลงผลการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 1 (ปี 2558) ว่า ในการประชุมสามัญประจำปี 2558 คณะกรรมการมูลนิธิรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่อาคารชัยพัฒนา สวนจิตรลดา โดยมีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ประธานกิตติมศักดิ์ เป็นประธานในการประชุม ได้มีวาระสำคัญในการให้ความเห็นชอบผลการคัดเลือกครูผู้สมควรได้รับพระราชทาน รางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ครั้งที่ 1 (ปี 2558) ของ 10 ประเทศในอาเซียนและติมอร์เลสเต และผลการคัดเลือกในส่วนของประเทศไทย ดังนี้
1. บรูไนดารุสซาลาม มาดาม ฮาจา รัตนาวาติ บินติ ฮาจิ โมฮัมมัด ครูการศึกษาพิเศษโรงเรียนประถมKeriam ผู้ริเริ่มการนำนวัตกรรมมาสอนเด็กพิการเรียนร่วมในรูปแบบต่างๆ โดยชักชวนผู้ปกครองและชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมจนได้รับรางวัลครูดีเลิศจาก สุลต่านแห่งบรูไน
2. กัมพูชา นางสาวทอช บันดาว ครูสอนภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษาใน Wat-Bo Primary School ครูที่เน้นการสอนโดยใช้นักเรียนเป็นศูนย์กลางผ่านเทคนิคสร้างแรงจูงใจให้ผู้ เรียน และให้ความสำคัญกับเด็กเรียนรู้ช้าโดยการสร้างเครื่องมือช่วยสอนเพื่อให้ เด็กมีพัฒนาการเรียนรู้จนได้รับรางวัลชนะเลิศครูที่มีความโดดเด่นในระดับ ชาติ
3.อินโดนีเซีย นายเฮอร์วิน ฮามิด ครูสอนวิทยาศาสตร์และหัวหน้าห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ โรงเรียน Junior High School Kendari มีผลงานโดดเด่นในการประยุกต์ใช้ Smart Phone เพื่อการศึกษา และพัฒนาสื่อการเรียนการสอนวิชาฟิสิกส์จนได้รับรางวัลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อส่งเสริมการศึกษาในระดับภูมิภาคของประเทศ
4. สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นางวงสัมพัน คำส้อย ครูสอนวิชาภาษาฝรั่งเศส ประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และรัฐศาสตร์ โรงเรียนมัธยมเวียงจันทน์ เน้นการพัฒนานักเรียนที่มีผลการเรียนต่ำให้มีการพัฒนาตนเอง มีทักษะและมีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเน้นการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเข้ามามีส่วน ร่วมในการปรับปรุงนักเรียน
5. มาเลเซีย นายไซนุดดิน ซาคาเรีย ครูสอนเทคโนโลยีสารสนเทศ โรงเรียนมัธยม Taman Bukit Maluri ผู้พัฒนาหลักสูตร ICT ของกระทรวงศึกษาธิการมาเลเซีย และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูผู้สอนการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเทคโนโลยีและการ สื่อสารในระดับชาติ
6. สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ นางสาวยี มอน ซอร์ ครูระดับอาวุโส โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย โรงเรียนหล่าย ทาร์ ยา ย่างกุ้ง สอนทั้งวิชาการและการประกอบอาชีพให้แก่ลูกศิษย์ จนมีความโดดเด่นได้รับการยอมรับอย่างมากจากเพื่อนครูและคนในชุมชน
7. สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ นายวิลเลียม โมราคา ครูใหญ่ Klolang Elementary School นักจัดการชั้นเรียนสมัยใหม่ให้แก่โรงเรียนชั้นประถมศึกษาและเป็นนักพัฒนา นวัตกรรมผลิตสื่อการสอนต้นทุนต่ำให้แก่โรงเรียนที่อยู่พื้นที่ห่างไกลมา อย่างต่อเนื่อง
8. สาธารณรัฐสิงคโปร์ นางหวัง ลิม ไอ่ เหลียน ครูใหญ่โรงเรียนประถม Holy Innocents’ Primary School ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษและคณิตศาสตร์ ผู้เน้นการสอนนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษโดยเฉพาะกลุ่มเรียนรู้ช้า ผู้ริเริ่มโครงการนำร่องด้วยการใช้ดนตรีบำบัดเพื่อสร้างแรงจูงใจในการเรียน รู้ของผู้เรียน วิจัยและพัฒนาหลักสูตรเฉพาะสำหรับนักเรียนที่มีความต้องการพิเศษ
9. ติมอร์ เลสเต นายจูลีโอ ไซเมน มาเดียรา ครูสอนในโรงเรียนระดับประถมและมัธยม ผู้ที่สามารถสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้แก่เด็กๆ ในชุมชน และสามารถดึงพลังการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นเข้าร่วมจัดการเรียนรู้ได้ เป็นอย่างดี
10. เวียดนาม นางทราน ติ ตวย ดุง ครูใหญ่และครูสอนวิชาภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษา ที่ Le Ngoc Han Primary School ผู้ริเริ่มทำให้เกิดต้นแบบโรงเรียนประถมรูปแบบใหม่ หรือ “เวียดนามนิวสคูลโมเดล” เผยแพร่ไปยังโรงเรียนประถมศึกษามากกว่า 3,000 แห่ง ผ่านระบบการจัดการที่มีความยืดหยุ่น เน้นทักษะชีวิต สร้างสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ในชั้นเรียน และจัดชั้นเรียนแบบมีปฏิสัมพันธ์ ทำให้เกิดรูปแบบการเรียนการสอนที่ทันสมัย
สำหรับประเทศไทย นายเฉลิมพร พงศ์ธีระวรรณ ครูเชี่ยวชาญกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ โรงเรียนสุราษฎร์พิทยา อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ครูคนแรกของประเทศที่จะได้รับพระราชทานรางวัลนี้ เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบการเรียนรู้ที่เน้นให้ผู้เรียนเกิด ทักษะการคิดวิเคราะห์และเรียนรู้ผ่านการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ซึ่งผู้เรียนจะตั้งคำถามและหาคำตอบหรือแก้ปัญหาได้ด้วยตนเองจากสิ่งที่อยู่ ในชุมชนจนประสบผลสำเร็จได้รับรางวัลในระดับนานาชาติเช่น การทำไบโอพลาสติกจากเกล็ดปลา ผลงานที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกรู้จักประเทศไทย จนมีการนำชื่อของนักเรียนโรงเรียนสุราษฎร์พิทยาจำนวน 3 คน ไปตั้งชื่อดาวเคราะห์น้อย 3 ดวงที่พบใหม่ในระบบสุริยะจักรวาล
ทั้งนี้ครูผู้สมควรได้รับพระราชทานรางวัลสมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรี ทั้ง 11 คน จาก 11 ประเทศ จะเข้ารับพระราชทานรางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และเข้าร่วมกิจกรรมทางวิชาการในวันที่ 2 ตุลาคมนี้